วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

Mr. Chatngeon Srisaroch Age 21
Nickname Pong
Nationality Thai
Brithday 25 July 1989
Address 26/586 Soi Ekkachai 69/1
EkkachaiRoad, BangBon Bangkok Postal code 10150
Religion Buddhism
Height 178 cm
Weight 95 kg
Marital Status Single
Military Service Exempted
Bachelor Major Computer Business, Business Administration, Faculty of Management, Bansomdejchaopraya Rajaphat University
Phone 085-1599310
@pongche_39@hotmail.com

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

LG สร้างตลาดมือถือฝาพับ โชว์น่ารักใน“กวน มึน โฮ”



LG เดินหน้าทำตลาดมือถือฟาพับต่อเนื่อง ตั้งเป้าเบอร์ 1 ในตลาดมือถือฝาพับที่ส่วนแบ่ง 40% ชูกลยุทธ์มูฟวีมาร์เก็ตติงรายแรกในไทย ส่งมือถือ “LG LED Series” โชว์ความน่ารักสดใสใน “กวน มึน โฮ” ภาพยนตร์รักสไตล์กวนๆ เรื่องล่าสุดจากค่ายจีทีเอช
นายณัฐวัชร์ ศิริวงศ์ศาล (คนซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อิเลกทรอนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า LG ประสบความสำเร็จในการทำตลาดโทรศัพท์มือถือฝาพับอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้จากส่วนแบ่งของ LG ในตลาดโทรศัพท์ฝาพับที่ 35% ในปัจจุบัน และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 40% ในสิ้นปีนี้ ซึ่งหมายถึงการขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโทรศัพท์ฝาพับ ขณะที่ GFK เปิดเผยยอดเติบโตของตลาดโทรศัพท์ฝาพับเพิ่มขึ้นถึง 100 % โดยโทรศัพท์ฝาพับมีส่วนแบ่งในตลาดรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 6 %ของตลาดรวมโทรศัพท์ทุกประเภท
LG คาดว่าจะผลักดันยอดขายโทรศัพท์แบบฝาพับให้เติบโตได้อีกเพราะมั่นใจว่าสามารถวางตำแหน่งของ LG ได้ตรงจุดว่าเป็นสินค้าที่ตอบสนองความต้องการกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งไม่ชอบอะไรที่จำเจ ซ้ำซาก รวมทั้ง กิจกรรมการตลาดถือเป็นเรื่องสำคัญต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดค่าย จีทีเอช เลือกโทรศัพท์มือถือ LG มาใช้ประกอบในภาพยนตร์เรื่อง “กวน มึน โฮ” โดยเห็นถึงจุดเด่นของ LG LED Series ที่มีสีสันสดใสในสไตล์เคป๊อบ ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาของภาพยนตร์ ที่เป็นเรื่องราวการเดินทางของคนแปลกหน้าสองคนซึ่งบังเอิญมาพบกันที่ประเทศเกาหลี โดยมีคอนเซปต์หลักของเรื่องคือความเป็น ‘โฮแมนติก กวนมิดี้’ ที่มีทั้งรสชาติความสนุกสนาน และความซาบซึ้งกินใจ จึงได้ติดต่อมาทาง LG เพื่อนำมือถือรุ่นดังกล่าวไปใช้ประกอบในภาพยนตร์
สำหรับมือถือ LG LED Series ที่ใช้ประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ LG GD580 Lollipop ซึ่งใช้เป็นมือถือของนางเอก และ LG GD350 Toffee ที่ใช้เป็นมือถือของพระเอก รวมทั้งการนำเสนอฟีเจอร์เด่นๆ ของ LG Lollipop ในอีกหลายๆ ฉาก เช่น การใช้กล้องหน้าของมือถือทำวิดีโอคอลแบบ 3G และการใช้ฟังก์ชันสร้างสรรค์ภาพกราฟิกบนจอ LED เพื่อสื่อสารแทนคำพูด
“ LG ให้ความสำคัญกับมือถือฝาพับที่เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่น ทำให้ทางจีทีเอชนึกถึง LG เป็นอันดับแรก การนำเสนอ LG LED Series ในภาพยนตร์เรื่องกวน มึน โฮ จะช่วยให้ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับมือถือ LG ในรูปแบบของภาพยนตร์ ซึ่งนับเป็นมูฟวีมาร์เก็ตติงที่ยังไม่มีผู้ผลิตมือถือรายใดเคยทำมาก่อนในประเทศไทย”
นอกจากนี้ LG ยังได้เตรียมกิจกรรมสื่อสารการตลาดในรูปแบบของ อินเทอร์แอคทีฟ เทรลเลอร์ เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งผู้ชมจะได้รับโทรศัพท์จากคนที่ไม่รู้จักในระหว่างชมภาพยนตร์ตัวอย่าง ผ่านทางเว็บไซต์ เข้าสู่หน้าภาพยนตร์ตัวอย่าง โดยเมื่อถึงฉากที่พระเอกของเรื่องใช้มือถือ LG Lollipop โทรหาแฟนเก่า ผู้ชมจะได้รับสายเรียกเข้าจากบุคคลแปลกหน้า และเมื่อรับสายก็จะต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายกวนๆ ในแบบฉบับของภาพยนตร์ กวน มึน โฮ พูดขึ้นว่า “ชื่ออะไรน่ะ ยินดีที่ไม่รู้จักครับ” (เฉพาะ 150 คนแรกที่เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละวัน)
นายณัฐวัชร์ กล่าวว่า แคมเปญออนไลน์ LG Lollipop Love Story เป็นแคมเปญเดียวจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัล Silver PR Lions จากเมืองคานส์ LG ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ สู่ผู้บริโภคอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอ อินเทอร์แอคทีฟ เทรลเลอร์ ครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะถูกใจกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความแปลกใหม่ และจะช่วยเพิ่มความรับรู้รวมทั้งเชื่อมโยงให้เกิดความชื่นชอบผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม LG LED Series ได้

ไมล์สโตน 2 เตรียมลุยตุลาคมนี้!



โมโตโรล่าเผยโฉม แอนดรอยด์โฟน ภายใต้ชื่อไมล์สโตน (Milestone) เจเนอเรชัน 2 หรือ ไมล์สโตน 2 ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 (Froyo) ซีพียูความเร็ว 1 GHz, หน่วยความจำ 8 GB, กล้อง 5 ล้านพิกเซล, มี GPS และรองรับการใช้งาน Flash Player 10.1
Alain Mutricy รองประธานอาวุโส บริษัท โมโตโรล่า กล่าวว่า ไมล์สโตนรุ่นใหม่ได้มีการอัปเดตประสิทธิภาพการใช้งานให้เพิ่มสูงขึ้น จากไมล์สโตนรุ่นแรก โดยได้มีการใช้ซีพียู OMAP ความเร็ว 1GHz, RAM 512MB และใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2 ซึ่งถือเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ในขณะที่ไมล์สโตนรุ่นแรกนั้นใช้แอนดรอยด์ 2.1 และมีซีพียูความเร็ว 600MHz
นอกจากนี้ Milestone 2 ยังสนับสนุนการใช้งานโปรแกรม Flash Player 10.1 ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการเข้าชมเว็บไซต์กว่าล้านเว็บไซต์ทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยให้สามารถเล่นเกม และดูวิดีโอที่ใช้งานโปรแกรมแฟลชได้ ซึ่งความสามารถนี้มาพร้อมกับแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2 นี้เอง
ในแง่ของการใช้งาน โมโตโรล่า ยังได้มีการพัฒนาคีย์บอร์ด QWERTY ให้มีขนาดใหญ่ และใช้งานง่ายขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์ข้อความได้อย่างรวดเร็ว, รองรับการใช้งาน 3G Hotspot เพื่อกระจายสัญญาณให้กับอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกัน 5 เครื่อง นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี DNLA ที่ทำให้โทรศัพท์เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ในแบบไร้สาย
"การเปิดตัวในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการปรับปรุงความสามารถใหม่ในไมล์สโตน 2 แต่ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต, ส่งข้อความ, ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และการใช้งานมัลติมีเดียที่ รวดเร็ว ยิ่งขึ้น" Alain Mutricy กล่าว
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาจากไมล์สโตนรุ่นก่อน คือความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง HD 720p รวมถึงอินเตอร์เฟส "MOTOBLUR" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการระบบอีเมล์ และโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ได้ง่ายขึ้นยิ่งขึ้น สามารถลดขนาดวิตเจ็ทได้ และมีระบบรักษาความปลอดภัยองค์กร และการจัดการแบตเตอรี่ที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ในส่วนกล้องภาพนิ่งนั้นยังคงมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชแอลอีดีแบบคู่ เหมือนในไมล์สโตนรุ่นแรก มีหน้าจอแสดงผล WVGA แบบมัลติทัชขนาดกว้าง 3.7 นิ้ว ช่องต่อหูฟัง 3.5มม. และเมมโมรีความจุ 8 GB ซึ่งสามารถเพิ่มความจุให้กับตัวเครื่องได้มากถึง 40 GB ด้วยไมโครเอสดี ความจุสูงสุด 32 GB
Milestone 2 จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอังกฤษ ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2553 ส่วนความคืบหน้าในประเทศไทยยังไม่มีความเคลื่อนไหวในขณะนี้ สำหรับ Milestone เป็นชื่อรุ่นที่ใช้สำหรับทำตลาดในเครื่องที่ใช้คลื่น GSM/HSPA ในยุโรปและเอเชีย ส่วนในสหรัฐฯ วางจำหน่ายในชื่อ Droid ซึ่งรองรับเครือข่ายแบบ CDMA เท่านั้น

ตื่นตาสมาร์ทโฟนเอเซอร์เฟอร์รารี



เอเซอร์จับม้าลำพองลงสมาร์ทโฟน Liquid E Ferrari สีแดงเพลิงเจาะตลาดพรีเมียมแฟนพันธุ์แท้เฟอร์รารี พร้อมรุ่น STREAM ที่จับกลุ่มที่ชอบความบันเทิง
นายนิธิพัทธ์ ปะวีณวงค์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดบริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ปีนี้เอเซอร์เปิดตลาดมือถือสมาร์ทโฟน 9 รุ่น 3 ซีรีส์ เจาะ 3 เซกเมนต์ตั้งแต่ผู้เริ่มใช้ ผู้ใช้ระดับกลาง และไฮเอนด์ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเอเซอร์ได้นำรุ่นสำหรับผู้เริ่มใช้และลูกค้าระดับกลางออกสู่ตลาดไปแล้ว และครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นซึ่งเป็นกลุ่มไฮเอนด์ คือ รุ่น Liquid E Ferrari ที่เน้นการดีไซน์จากต้นแบบของรถแข่งเฟอร์รารีสีแดงเพลิง ประทับตราม้าลำพองผสานเทคโนโลยี Android 2.1 (Eclair) โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือแฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบเฟอร์รารี ซึ่งทั่วโลกมีเพียง 8 พันเครื่อง อยู่ในไทย 500 เครื่อง พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัว STREAM สมาร์ทโฟนมัลติมีเดียระดับไฮเอนด์อีกหนึ่งรุ่น
“อินโนเวทีฟ และความเป็นไฮเอนด์คือโพสิชันนิ่งของเรา”
นงสาวสุภาพร ลือพร้อมชัย ผู้จัดการอาวุโสลิตภัณฑ์กลุ่มดิจิตล ดิสเพลย์ เอซอร์ กล่าวว่า สมาร์ทโฟน Liquid E Ferrari บอดี้เป็นวัสดุเคลือบเงาสีแดงเพลิง ดีไซน์จากต้นแบบของรถเฟอรรารี ประทับโลโกม้าลำพองและเอเซอร์ พร้อมอัดสปีดความ เร็ว แรง ด้วยระบบปฏิบัติการและโครงสร้างเมนู Android 2.1หน้าจอระบบสัมผัสแบบ capacitive ขนาด 3.5 นิ้ว WVGA รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ 3G, Wi-Fi, GPS, Bluetooth และกล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมหูฟังบลูทูธเฟอร์รารีพร้อมเว็บลิงค์เข้าสู่ Ferrari Youtube, Ferrari Facebook วางจำหน่ายในราคา 21,900 บาท
ส่วนสมาร์ทโฟน STREAM เหมาะกับผู้ที่ชอบความบันเทิงทั้งการชมรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ระดับ High Definition และการฟังเพลง และการท่องเว็บไซต์มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED WVGA 3.7 แน้ว ระบบสัมผัสแบบ Capacitive หนักเพียง 126 กรัม รองรับระบบปฏิบัติการ Android 2.1 (Eclair) รองรับ 3G และ Wi-Fi ในราคา 18,900 บาท
ส่วนช่องทางการทำตลาดสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น จะขายผ่านคู่ค้าของเอเซอร์แต่จะเน้นพรีเมียมชอปเป็นหลักเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์จึงต้องทำตลาดแบบไฮเอนด์ เช่น ชอปเอ็มโพเดียม หรือสยามพารากอน

AIS เปิด'GSM ซิมเดียวอยู่'







จีเอสเอ็ม แอดวานซ์ นำ EDGE Plus เติมเต็มชีวิตสมาร์ทให้คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบชีวิตออนไลน์ ภายใต้ธีม “จีเอสเอ็ม ซิมเดียวอยู่” พร้อมเปิดตัวซิมฝั่งโขงในระบบเติมเงินช่วยลูกค้าประหยัด 90%
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ (ที่ 2 จากซ้าย) รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอสกล่าวว่า เอไอเอสได้เพิ่มความอัจฉริยะให้แก่ซิมจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้ลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต โทร.ออกและรับสายได้พร้อมกันในพื้นที่ครอบคลุมทุกภาค บนเทคโนโลยี EDGE Plus
นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลต่างๆ ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอัปโหลดได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า จาก 118 Kbps เป็น 236 Kbps รวมทั้งเพิ่มแพกเสริมใหม่ คุยฟรีข้ามวันข้ามคืน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้าคุยได้ไม่อั้นตั้งแต่ 4 ทุ่ม - 5 โมงเย็น ในเครือข่ายเอไอเอส เพียงเดือนละ 249 บาท
ทำให้วันนี้ซิมจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ มีความพร้อมครบเครื่องในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นแพกเกจที่โดนใจ, สิทธิพิเศษที่ทำร่วมกับพาร์ตเนอร์มากมาย รวมทั้งการมีเน็ตเวิร์คที่เข้มแข็ง เซอร์วิสที่ล้ำหน้า เติมเต็มชีวิตสมาร์ทให้แก่คนรุ่นใหม่ได้
เปิดซิมฝั่งโขง
นายสมชัยกล่าวว่า เอไอเอสยังได้ร่วมมือกับเอ็มโฟนประเทศกัมพูชาและลาวเทเลคอม เปิดซิมฝั่งโขงในระบบเติมเงิน โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่ทั้ง 3 โอเปอเรเตอร์มองเห็นจุดเดียวกัน คือ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ที่เดินทางข้ามฝั่งไปยัง 3 ประเทศ ได้ใช้โทรศัพท์ในราคาที่ถูกกว่าเดิม 81% - 90% จากปกติไทย-ลาว อยู่ที่ 32 บาท ส่วนไทย-กัมพูชา อยู่ที่ 92 บาท ลดลงเหลือ 6 บาททั้งหมด
ในส่วนของลูกค้าซิมฝั่งโขงของเอไอเอส สามารถนำไปใช้งานในทุกพื้นที่ของกัมพูชาและลาว เพียงเลือกเครือข่ายเอ็มโฟนในกัมพูชา และลาว เทเลคอม ในลาว ก็สามารถโทร.ข้ามประเทศหากัน และโทร.ในพื้นที่ประเทศนั้นๆ ได้ อัตราค่าโทร.กลับบ้าน หรือโทร.ในพื้นที่ในลาวและกัมพูชานาทีละ 6 บาท หรือส่ง SMS ครั้งละ 6 บาท ส่วนการรับสายในลาวจากปกติ 30 บาท ลงมาเหลือ 18 บาท รับสายในกัมพูชา 70 บาท เหลือ 30 บาท ขณะที่ถ้าโทร.ในประเทศจะเป็นตามโปรโมชันที่เลือกใช้
ซิมฝั่งโขง ขายในราคาซิมละ 99 บาท ตั้งแต่วันนี้ที่ร้านค้าทั่วไปใน 13 จังหวัดที่ติดชายแดนลาวและกัมพูชา ได้แก่ อุบลราชธานี , เลย , หนองคาย , นครพนม , มุกดาหาร , อำนาจเจริญ , ศรีษะเกษ , สุรินทร์ , บุรีรัมย์ , จันทบุรี , ตราด, สระแก้ว และบึงกาฬ







สิ้นปีได้เห็น! สมาร์ทโฟนดูอัลคอร์

http://www.manager.co.th/Telecom/ViewNews.aspx?NewsID=9530000125689


แอลจี-ซัมซุง 2 แบรนด์ใหญ่จากเกาหลี ไม่ยอมน้อยหน้ากัน ประกาศเปิดตัวหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์สำหรับอุปกรณ์พกพา ในวันเดียวกัน โดยแอลจีหวังกระจายชิปสู่โรงงานผลิตให้ทันช่วงไตรมาส 4 ขณะซัมซุงวางแผนทำตลาดในช่วงต้นปีหน้า

ทางแอลจีขยับตัวก่อน แนะนำซีรีส์ หน่วยประมวลผลสำหรับอุปกรณ์พกพารุ่นใหม่ภายใต้สายการผลิตของ "NVIDIA Tegra 2" ซึ่งคาดว่าจะเริ่มนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนในรุ่น ออปติมัส (Optimus) ซึ่งเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอลจี ที่เพิ่งเริ่มทำตลาดไม่นานนี้ซึ่งตัวออปติมัส 7 เป็นรุ่นแรกที่มีข่าวหลุดออกมาว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 7 ที่จะเปิดตัวพร้อมกับการเปิดตัวระบบปฏิบัติจากไมโครซอฟท์ในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

แอลจีออกมาให้คำนิยามหน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 2 ว่าเป็นหนึ่งในทุกด้าน เช่น เป็นโมบายล์ซีพียูดูอัลคอร์ มีหน่วยประมวลผลภาพ (NVIDIA GeForce GPU) แบบประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผลภาพแบบ Full HD 1080p ภายใต้ความเร็วประมวลผลดูอัลคอร์ที่ 1GHz ทำให้ผู้ใช้สามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้นเท่าตัว เล่นเกมเร็วขึ้น 5 เท่า รวมไปถึงรองรับการแสดงผลภาพแบบ 3มิติ ในอนาคตเป็นต้น

กำหนดการวางจำหน่าย ออปติมัส ซีรีส์ ที่มาพร้อมกับ NVIDIA Tegra 2 ของทางแอลจีในต่างประเทศ จะเริ่มในไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่วนความคืบหน้าของการจำหน่ายภายในประเทศยังไม่มีรายงานออกมา

หลังจากทางแอลจีประกาศเปิดตัวได้ไม่นาน ทางซัมซุงเองก็ออกมาขยับตัวประกาศเปิดตัว "Orion" โค้ดเนมหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ ที่ใช้สายการผลิตของ ARM Cortex A9 ภายใต้คอนเซปต์ซีพียูประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน สำหรับแท็ปแล็ต เน็ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน

ทางซัมซุงยังคงเลือกที่จะใช้สถาปัตยกรรมขนาด 45 นาโนเมตร จาก ARM Cortex A9 1GHz ที่มาพร้อม D-Cache, I-Cache ขนาด 32KB และ L2-Cache 1MB เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานมัลติเทสกิ้งได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มหน่วยความจำภายในเพื่อให้สามารถประมวลผลมัลติมีเดียอย่าง Full HD และ เกมส์ 3มิติ ด้วยเช่นกัน

โดยหน่วยประมวลผลดังกล่าวได้มีการพัฒนาให้รองรับการใช้งานทางด้านมัลติมีเดียเพิ่มขึ้น เช่นการเข้า-ถอดรหัส วิดีโอ เพิ่มความสามารถให้สามารถอัดวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ใช้หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) มาเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพดีกว่าซีพียูตัวล่าสุดของซัมซุง 5 เท่า

นอกจากนี้ Orion ยังสามารถให้ผู้ใช้เลือกหน่วยบันทึกข้อมูลประเภทต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น NAND flash, moviNAND, SSD หรือ HDD SATA และ eMMC เลือกหน่วยความจำได้ว่าจะเป็น DDR2 หรือ DDR3 เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด รวมไปถึงใส่ตัวรับสัญญาณ GPS ให้รองรับการใช้งานโลเคชัน เบส เซอร์วิสได้ในอนาคต

สำหรับกำหนดการวางจำหน่ายหน่วยประมวลผล Orion ให้กับทางโรงงานผลิตจะอยู่ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และทางซัมซุงคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้หน่วยประมวลผลดังกล่าวจะเริ่มทำตลาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2011

เจมาร์ทเปิด 'ซีซีแชต' ผ่านมือถือเจโฟน

http://www.manager.co.th/Telecom/ViewNews.aspx?NewsID=9530000125742



เจมาร์ทออก “ซีซีแชต” บริการแชตผ่านมือถือเจโฟน รองกรับการขยายตัวของสังคมออนไลน์ เน้นกลุ่มวัยรุ่น ด้วยโปรโมชัน 39 บาทต่อสัปดาห์ ตั้งเป้าผู้ใช้แสนรายภายในสิ้นปีนี้

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กล่าวว่า จากกระแสความนิยมของของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถแบ่งปันข่าวสารและติดต่อกันได้ตลอดเวลา โดยผ่านรูปแบบของข้อความ รูปภาพ เสียง รวมไปถึงการแชต แต่การแชตไม่ได้จำกัดแค่โลกออนไลน์หรือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น แชตยังมีบทบาทและได้รับความนิยมบนมือถือมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการติดต่อสื่อสารได้ทุกที่ทุกเวลา

แต่การแชตบนมือถือจะมีความยุ่งยากในการใช้งาน เพราะคู่สนทนาจะต้องออนไลน์ จึงจะสามารถสนทนากันได้ แม้ตอนนี้จะมีบริการที่แก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องของราคาเครื่องและค่าบริการรายเดือนที่สูง จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างแท้จริง

จากกระแสความนิยมดังกล่าวและความยุ่งยากที่เข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง เจมาร์ทจึงได้เปิดซีซีแชต ซึ่งเป็นบริการแชตผ่านมือถือเจโฟนที่เป็นเครื่องลูกข่ายราคาตั้งแต่ 1,990-2,900 บาท

'เราเห็นช่องว่างทางการตลาดตรงนี้จึงได้พัฒนาบริการและเครื่องลูกข่ายออกมาตอบสนองกลุ่มเป้า'

เจมาร์ทจะใช้งบการตลาดประมาณ 50 ล้านบาท ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแบบครบวงจร เพื่อแนะนำบริการซีซีแชตและสื่อให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น โดยเน้นสีสันสดใจและภาษาที่โดนใจ

สำหรับซีซีแชตเป็นการทำงานในรูปแบบออนไลน์โดยการสมัครบริการซีซีแชตด้วยเบอร์โทรศัพท์และชื่อของผู้สมัครกับเครื่องเจโฟนที่มีให้บริการ โดยไม่ต้อง Sing in บริการดังกล่าวสามารถใช้บริการกับผู้ให้บริการทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ โดยเจมาร์ทตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 1 แสนรายภายในสิ้นปีนี้ ด้วยค่าบริการ 39 บาทต่อสัปดาห์

บริการดังกล่าวมีด้วยกัน 4 รูปแบบคือ 1.บริการแชต (ซีซีแชต) ให้สนุกกับการแชตผ่านข้อความ รูปภาพ อีเมล และข้อความเสียง 2.บริการพุชเมล (ซีซีเมล) ซึ่งเป็นการบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับส่งอีเมลไม่ว่จะเป็นฮอตเมล ยาฮู หรือกูเกิลได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังสามารถตอบกลับโดยไม่ต้องเข้าโปรแกรม หรือ Sing in 3.บริการส่งรูป (ซีซีพิก) บริการรับส่งภาพโดยไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์ภาพ 4.บริการเสียง (ซีซีออดิโอ) บริการรับส่งข้อความเสียง